Interdisciplinary Academic and Research Journal最新文献

筛选
英文 中文
การบริหารคลังสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในบริษัท เอบีซี จำกัด การบริหารคลังสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในบริษัท เอบีซี จำกัด
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-05-21 DOI: 10.60027/iarj.2024.275455
ศานิต ธรรมศิริ, ณัฐภูมิ งามเนตร งามเนตร, ธิติ จิรวัชรากร, สุนิ ประจิตร, อาริยา ภูวคีรีวิวัฒน์
{"title":"การบริหารคลังสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในบริษัท เอบีซี จำกัด","authors":"ศานิต ธรรมศิริ, ณัฐภูมิ งามเนตร งามเนตร, ธิติ จิรวัชรากร, สุนิ ประจิตร, อาริยา ภูวคีรีวิวัฒน์","doi":"10.60027/iarj.2024.275455","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275455","url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การบริหารงานคลังสินค้าเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจของบริษัท เอบีซี จำกัด เนื่องจากมีผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า การเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน และความเชื่อถือในตลาด วัตถุประสงค์การวิจัยคือ (1) เพื่อศึกษาการบริหารงานคลังสินค้าของบริษัท เอบีซี จำกัด (2) เพื่อศึกษาตัวแปรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดําเนินงานของบริษัท เอบีซี จำกัด\u0000ระเบียบวิธีการวิจัย: ประชากรคือพนักงานคลังสินค้าของบริษัท เอบีซี จำกัด จำนวน 438 คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 209 คน เครื่องมือในการวิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการถดถอยเชิงพหุคูณ\u0000ผลการวิจัย: 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ระดับการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำงานในฝ่ายรับสินค้า มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000 - 20,000 บาท 2) ด้านการบริหารคลังสินค้ามีความคิดเห็นดีที่สุดที่การหยิบสินค้า และการส่งมอบและการรับสินค้า พร้อมทั้งมีความพึงพอใจในการจ่ายสินค้า มีค่าสูงสุดในด้านการบริการ แสดงถึงความเชื่อถือได้และมีความเห็นร่วมกันมากที่สุด และด้านเวลาและต้นทุน แสดงถึงความสำคัญของการบริการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท และ 3) ตัวแปรที่ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานมากที่สุดคือ ด้านการจัดเก็บสินค้า (Beta=0.284) รองลงมาคือ ด้านการส่งมอบสินค้า (Beta=0.266) และด้านการจ่ายสินค้า (Beta=0.206)\u0000สรุปผล: ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชายที่มีประสบการณ์ทำงานน้อยและมีระดับการศึกษาสูง และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนในระดับกลาง การจัดเก็บสินค้ามีผลกระทบมากที่สุดต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตามด้วยการส่งมอบสินค้าและการจ่ายสินค้า การบริการเป็นแนวทางสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารคลังสินค้า โดยการปรับปรุงด้านการบริการอาจจะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าในอนาคต","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"2 4","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-05-21","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"141114458","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
การเรียนรู้แบบผสมผสาน: ทฤษฎี แนวปฏิบัติ และประสิทธิผล การเรียนรู้แบบผสมผสาน: ทฤษฎี แนวปฏิบัติ และประสิทธิผล
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-05-21 DOI: 10.60027/iarj.2024.277283
บุศรา นิยมเวช
{"title":"การเรียนรู้แบบผสมผสาน: ทฤษฎี แนวปฏิบัติ และประสิทธิผล","authors":"บุศรา นิยมเวช","doi":"10.60027/iarj.2024.277283","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.277283","url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การเรียนรู้แบบผสมผสานจะช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้นได้ ทำให้ผู้สอนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นการปรับปรุงผลลัพธ์การสอนและการเรียนรู้ สำหรับแนวคิดทฤษฎี การปฏิบัติและประสิทธิผลที่เป็นปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ร่วมกันนำไปสู่สภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่ประสบความสำเร็จและครอบคลุมการเรียนรู้แบบผสมผสาน โดยมีวัตถุประสงค์ในการสังเคราะห์องค์ความรู้เกี่ยวกับการเรียนรู้แบบผสมผสานในเรื่องทฤษฎี แนวปฏิบัติ และประสิทธิผล \u0000ระเบียบวิธี: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเอกสาร โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ บทความ หนังสือ เอกสารการประชุม และสิ่งพิมพ์ทางวิชาการอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงอย่างเป็นระบบ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทฤษฎี แนวปฏิบัติ และประสิทธิผลอย่างละเอียดและครอบคลุม  ผลการศึกษาจะช่วยส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนรู้แบบผสมผสาน จากมุมมองที่หลากหลายและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้\u0000ผลการวิจัย: ผลการวิจัยในเรื่องทฤษฎี แนวปฏิบัติ และประสิทธิผลประกอบด้วยหลายมิติ ดังนี้ (1) ทฤษฎีการเรียนรู้แบบผสมผสาน ประกอบด้วย 1.1) ภาพรวมของทฤษฎีการเรียนรู้แบบผสมผสาน 1.2) มุมมองของคอนสตรักติวิสต์และสังคมวัฒนธรรม 1.3) การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้แบบผสมผสานในการออกแบบการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (2) แนวปฏิบัติของการเรียนรู้แบบผสมผสาน ประกอบด้วย 2.1) รูปแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน 2.2) แนวทางการนำการเรียนรู้แบบผสมผสานไปใช้ในบริบททางการศึกษา 2.3) การบูรณาการการเรียนรู้แบบผสมผสาน แบบเผชิญหน้าและแบบออนไลน์อย่างมีประสิทธิผล (3) ประสิทธิผลของการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Effectiveness of Blended Learning) ประกอบด้วย 3.1) งานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิผลของการเรียนรู้แบบผสมผสาน 3.2) ผลกระทบที่มีต่อการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจของผู้เรียน 3.3) การเปรียบเทียบกับการสอนแบบตัวต่อตัวแบบดั้งเดิมและแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ และ 3.4) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการเรียนรู้แบบผสมผสาน อย่างไรก็ดีการนำการเรียนรู้แบบผสมผสานไปใช้มีอุปสรรคหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่การนำไปใช้การยอมรับ การขาดความรู้และทักษะในการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานและความพร้อมด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น\u0000สรุปผล: ความรู้ความเข้าใจเรื่องทฤษฎี แนวปฏิบัติ และประสิทธิผลของการเรียนรู้แบบผสมผสาน มีความสำคัญในการจัดการศึกษาสมัยใหม่ เพราะสอดคล้องกับบริบททางการศึกษาในยุคดิจิทัล และสามารถช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จและมีความพึงพอใจในการเรียน  ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่สามารถแก้ได้ด้วยการดำเนินการเชิงรุก","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"134 16","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-05-21","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"141115012","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
ผลการใช้บอร์ดเกมร่วมกับกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน เรื่องการเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อพัฒนาความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ผลการใช้บอร์ดเกมร่วมกับกจรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน เรือ่งการเดินทางโดยเครืองบินเพือพัฒนาความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชีพ
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-05-21 DOI: 10.60027/iarj.2024.275088
พรชนก มหาวรรณตัน, กิตติยา ปลอดแก้ว
{"title":"ผลการใช้บอร์ดเกมร่วมกับกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน เรื่องการเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อพัฒนาความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ","authors":"พรชนก มหาวรรณตัน, กิตติยา ปลอดแก้ว","doi":"10.60027/iarj.2024.275088","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275088","url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้คำศัพท์ ควรเป็นการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนมีบทบาท มีส่วนร่วมในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนมีหน้าที่แสวงหาสื่อการสอนที่สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพการใช้บอร์ดเกม ร่วมกับกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน เรื่อง การเดินทางโดยเครื่องบิน เพื่อพัฒนาความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาความสามารถของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพในการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษหลังเรียน โดยใช้บอร์ดเกมร่วมกับกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน เรื่อง การเดินทางโดยเครื่องบิน โดยเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 หรือไม่\u0000ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 สาขาวิชาการท่องเที่ยว วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้อง ทั้งหมดมีจำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชันร่วมกับบอร์ดเกม จำนวน 2 แผน 2) แบบทดสอบเรื่องการเดินทางโดยเครื่องบิน 3) แบบประเมินความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 4) บอร์ดเกม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ t-test\u0000ผลการวิจัย: (1) การสร้างและหาประสิทธิภาพของการใช้บอร์ดเกม ร่วมกับกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน เรื่อง การเดินทางโดยเครื่องบิน เพื่อพัฒนาความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 3 ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง (E1/ E2) พบว่า การทดสอบภาคสนามจำนวน 5 คน มีค่าเท่ากับ 82.67/83.00 (2) นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 3 ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง ที่ใช้บอร์ดเกมร่วมกับกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน เรื่อง การเดินทางโดยเครื่องบิน มีความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01\u0000สรุปผล: การใช้บอร์ดเกมร่วมกับกิจกรรมเรียนรู้ตามแนวเกมมิฟิเคชัน ส่งเสริมให้การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ มีผลคะแนนระหว่างเรียนและคะแนนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยค่อนข้างสูง ส่งผลให้ประสิทธิภาพของบอร์ดเกมสูงตามไปด้วย โดยเห็นได้จากคะแนนเฉลี่ยความสามารถการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"66 3","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-05-21","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"141116802","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
การศึกษาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านของนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาเอกการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง การศึกษาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านของนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาเอกการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-05-21 DOI: 10.60027/iarj.2024.276926
ทยิดา เลิศชนะเดชา
{"title":"การศึกษาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านของนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาเอกการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง","authors":"ทยิดา เลิศชนะเดชา","doi":"10.60027/iarj.2024.276926","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276926","url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพต่อนักศึกษา ช่วยพัฒนากระบวนการคิดเพื่อค้นหาคำตอบในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยอาศัยประสบการณ์และการฝึกปฏิบัติจริง สามารถเผชิญปัญหาและจัดการกับภาวะต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมเป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ 2) เพื่อเปรียบเทียบความคงทนในการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ หลังจากการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านทันทีและผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน\u0000ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเอกการประถมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ที่ลงทะเบียนเรียนวิชา CEE2307 (CEE3201) ภาษาไทยสำหรับครูประถมศึกษา จำนวน 35 คน โดยใช้โปรแกรม G* Power โดยกำหนดค่าขนาดอิทธิพล (Effect Size) เท่ากับ 0.57 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างได้เท่ากับ 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยนี้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test dependent (Mean One Sample Test)\u0000ผลการวิจัย: พบว่า 1) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาหลังการจัดการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผลการเปรียบเทียบความคงทนในการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ หลังจากการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ความคงทนในการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ หลังการจัดการเรียนรู้ เมื่อผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ไม่แตกต่างจากหลังการจัดการเรียนรู้ทันทีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน พบว่า ความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ ด้านเนื้อหาสาระการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการวัดและประเมินผลอยู่ในระดับมาก\u0000สรุปผล การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านของนักศึกษาปริญญาตรี ส่งผลให้นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีความคงทนในการเรียนรู้หลักภาษา เรื่อง ชนิดของคำ และนักศึกษาได้พัฒนาทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการคิดขั้นสูง และทักษะสังคมที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในอนาคต","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"10 12","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-05-21","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"141118613","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
ความรู้ในการจัดการขยะมูลฝอยและการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ความรู้ในการจัดการขยะมูลฝอยและการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-05-21 DOI: 10.60027/iarj.2024.275354
ดาวนภา หอมเฮ้า, ละมัย ร่มเย็น, สัญญาศรณ์ สวัสดิ์ไธสง
{"title":"ความรู้ในการจัดการขยะมูลฝอยและการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร","authors":"ดาวนภา หอมเฮ้า, ละมัย ร่มเย็น, สัญญาศรณ์ สวัสดิ์ไธสง","doi":"10.60027/iarj.2024.275354","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275354","url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ปัจจัยที่ทำให้หลายประเทศต้องประสบปัญหาเรื่องขยะมูลฝอย คือ การเพิ่มขึ้นของประชากร การขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการอุปโภคบริโภคของประชาชน ทำให้เกิดขยะมูลฝอยเศษสิ่งของเหลือใช้มีปริมาณมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาระดับความรู้ในการจัดการขยะมูลฝอย การมีส่วนร่วมของประชาชน และประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของความรู้ในการการจัดการขยะมูลฝอยของประชาชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ 3) เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการขยะของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ\u0000ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 381 คน และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ \u0000ผลการวิจัย: (1) ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศมีความรู้ในการจัดการขยะมูลฝอย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอยโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2) ความรู้ในการจัดการขยะมูลฝอยของประชาชน ด้านผลเสียของขยะมูลฝอย (β= .170) การจัดการขยะมูลฝอย (β= .148) ประเภทของขยะมูลฝอย (β= .145) และความหมายของขยะมูลฝอย (β= .131) มีอิทธิพลและสามารถร่วมกันพยากรณ์ระดับประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอย ได้ร้อยละ 31.60 (R2Adj= .316) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 การมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านการมีส่วนร่วมในการดำเนินการ (β= .283) การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (β= .156) และการมีส่วนร่วมในการประเมินผล (β= .131) มีอิทธิพลและสามารถร่วมกันพยากรณ์ระดับประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอย  ได้ร้อยละ 48.40 (R2Adj= .484) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ยกเว้นการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ (3)  รูปแบบการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอย ได้แก่ (3.1) การดำเนินการรณรงค์ ปลูกจิตสำนึก และให้ความรู้เกี่ยวกับการการจัดการขยะมูลฝอยแก่ประชาชน (3.2) ควรรณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอย (3.3) ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน เพื่อสร้างกลไกร่วมกันเพื่อที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยที่ถูกต้องของประชาชน\u0000สรุปผล: ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าประชาชนมีความรู้และประสิทธิภาพในการจัดการขยะในระดับสูง ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้ ควบคู่ไปกับแคมเปญที่ตรงเป้าหมายและความพยายามในการทำงานร่วมกัน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพแนวทางปฏิบัติในการจัดการขยะและเพิ่มประสิทธิภาพ","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"53 22","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-05-21","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"141118338","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
การสำรวจภูมิทัศน์ของการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ: กลยุทธ์ เทคโนโลยีและผลกระทบ การสำรวจภูมิทัศน์ของการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ: กลยุทธ์ เทคโนโลยีและผลกระทบ
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-05-21 DOI: 10.60027/iarj.2024.276782
สันทนา สุธาดารัตน์, บุศรา นิยมเวช
{"title":"การสำรวจภูมิทัศน์ของการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ: กลยุทธ์ เทคโนโลยีและผลกระทบ","authors":"สันทนา สุธาดารัตน์, บุศรา นิยมเวช","doi":"10.60027/iarj.2024.276782","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276782","url":null,"abstract":"ความเป็นมาและวัตถุประสงค์: ภูมิทัศน์ของการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากองค์กรต้องการคงศักยภาพความได้เปรียบในการแข่งขันและประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้  เนื่องจากการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการมีลักษณะเป็นพลวัต และเน้นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องที่สามารถนำไปใช้ได้จริง  ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้องค์กรมีข้อมูลในการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ ที่สามารถสร้างวัฒนธรรมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีการสร้างสรรค์นวัตกรรม\u0000ระเบียบวิธี: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเอกสาร โดยการรวบรวมและวิเคราะห์วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างเป็นระบบ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงตลอดจนคำศัพท์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ เทคโนโลยี และผลกระทบของการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ อย่างละเอียดและครอบคลุม  การศึกษานี้จะช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ จากมุมมองที่หลากหลายและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้\u0000ผลการวิจัย: แนวคิดหลักในการสำรวจภูมิทัศน์ของการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการครอบคลุมหลายมิติ ประการแรก เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ ได้แก่ การเรียนรู้ทางสังคม ประสบการณ์จากการทำงาน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน  การรับรู้องค์ประกอบดังกล่าวช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์เชิงกลยุทธ์และสนับสนุนการริเริ่มการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการได้อย่างเหมาะสม   ประการที่สอง เทคโนโลยีที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการมีบทบาทสำคัญ เป็นต้นว่า การใช้โปรแกรมประยุกต์ (Application) แพลตฟอร์มสื่อสังคม (Facebook, Twitter และ LinkedIn) และแพลตฟอร์มประสบการณ์การเรียนรู้ (Learning Experience Platform) สามารถสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี  โดยเฉพาะในภูมิทัศน์สมัยใหม่ที่โลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี   ประการที่สาม การจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ มีผลกระทบต่อการพัฒนาองค์กร ทำให้บุคลากรมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น เกิดมีวัฒนธรรมนวัตกรรม และองค์กรต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  องค์กรจึงมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดให้มีการเรียนรู้อย่างไม่เป็นทางการในโครงสร้างขององค์กร\u0000สรุปผล: การสำรวจภูมิทัศน์ของการจัดการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจกับรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างมีกลยุทธ์  และความจำเป็นที่จะต้องมีการบูรณาการการเรียนรู้อย่างไม่เป็นทางการกับโครงสร้างองค์กร  เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากรในการขับเคลื่อนเส้นทางการเรียนรู้","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"128 21","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-05-21","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"141115568","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
การจัดการสวนยางพาราเพื่อเพิ่มผลผลิต การจัดการสวนยางพาราเพื่อเพิ่มผลผลิต
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-04-08 DOI: 10.60027/iarj.2024.274697
ยงยุทธ แก้วน้อย, ธนัญชกร ปกิตตาวิจิตร, ศุภวัฒน์ สุขะปรเมษฐ
{"title":"การจัดการสวนยางพาราเพื่อเพิ่มผลผลิต","authors":"ยงยุทธ แก้วน้อย, ธนัญชกร ปกิตตาวิจิตร, ศุภวัฒน์ สุขะปรเมษฐ","doi":"10.60027/iarj.2024.274697","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.274697","url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์ : บทความนี้นำเสนอแนวทางและวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตในการจัดการสวนยางพาราอย่างยั่งยืน โดยการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการปรับปรุงกระบวนการมาใช้ในการปลูกและผลิตยางพารา ตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมและการเลือกพันธุ์ยางพาราที่เหมาะสม การดูแลรักษาต้นยางพาราอย่างเหมาะสม การเก็บเกี่ยวยางพาราในเวลาที่เหมาะสม และการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของยางพาราอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจการจัดการสวนยางพาราเพื่อเพิ่มผลผลิตในยางพาราและอุตสาหกรรมยางพาราทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า\u0000ระเบียบวิธีการวิจัย : การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์และนําเสนอตามประเด็นวัตถุประสงค์การศึกษา\u0000ผลการวิจัย : การจัดการสวนยางพาราเพื่อเพิ่มผลผลิตต้องพึ่งพาองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาและการวิจัยที่ต่อเนื่อง ความรู้นี้รวมถึงการเลือกสายพันธุ์ยางที่เหมาะสมกับสภาพดินและอากาศในแต่ละพื้นที่ การใช้วิธีการปลูกและกรีดยางที่ทันสมัย การบำรุงดินและการใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม\u0000สรุปผล : การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม การบำรุงดิน การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม การควบคุมศัตรูพืชและโรค และการกรีดยางด้วยวิธีที่ทำให้ต้นยางมีอายุการใช้งานยาวนาน รวมทั้งการสนับสนุนจากรัฐบาลในด้านการศึกษา การวิจัย และการเข้าถึงเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่สามารถจัดการสวนยางได้","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"37 4","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-04-08","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"140729433","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
การศึกษาความชุกของการรังแกกันในเด็กปฐมวัย : กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง การศึกษาความชุกของการรังแกกันในเด็กปฐมวัย : กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-04-08 DOI: 10.60027/iarj.2024.276121
นุชนาถ โอฬารวัฒน์, จุฑาภรณ์ มาสันเทียะ, ดารุณี ทิพยกุลไพโรจน์
{"title":"การศึกษาความชุกของการรังแกกันในเด็กปฐมวัย : กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง","authors":"นุชนาถ โอฬารวัฒน์, จุฑาภรณ์ มาสันเทียะ, ดารุณี ทิพยกุลไพโรจน์","doi":"10.60027/iarj.2024.276121","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276121","url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ปัญหาการรังแกกันสามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้นตามอายุที่พบ เด็กปฐมวัยก็พบว่ามีการรังแกกันเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งการค้นพบข้อมูลว่าเด็กปฐมวัยสามารถรังแกกันได้ จะทำให้ผู้ปกครอง ครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้ต่อไป การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของการรังแกกันในเด็กปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง\u0000ระเบียบวิธีการวิจัย: งานวิจัยนี้เป็นแบบกรณีศึกษาในโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง เก็บข้อมูลกับนักเรียน ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง 3 จำนวน 547 คน ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2566 โรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง โดยครูประจำชั้นแต่ละห้องเป็นผู้สังเกตและประเมินพฤติกรรมของนักเรียน และวิเคราะห์ผลการสังเกตพฤติกรรมโดยใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ผล\u0000ผลการศึกษา: เด็กปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทองส่วนใหญ่ไม่พบพฤติกรรมการรังแกกันทั้ง 3 รูปแบบ ดังนี้ (1) การรังแกกันทางกายใน 10 พฤติกรรมย่อย คิดเป็นร้อยละ 68.20 ถึง 94.50 ของนักเรียนทั้งหมด (2) การรังแกกันทางวาจาใน 8 พฤติกรรมย่อย คิดเป็นร้อยละ 88.10 ถึง 95.60 ของนักเรียนทั้งหมด และ (3) การรังแกกันทางสังคมใน 4 พฤติกรรมย่อย คิดเป็น 88.80 ถึง 95.60 ของนักเรียนทั้งหมด\u0000สรุปผล: ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเด็กก่อนวัยเรียนส่วนใหญ่ที่โรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทองไม่ได้มีส่วนร่วมในพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง แต่มีเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างมากที่มีส่วนร่วมในรูปแบบการกลั่นแกล้งทางร่างกาย วาจา และทางสังคม อัตราความชุกของพฤติกรรมย่อยเหล่านี้อยู่ระหว่าง 68.20% ถึง 95.60%","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"27 8","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-04-08","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"140728259","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
The Development of Happy Organization Indicators of Private Vocational Colleges in The Northeast 东北地区民办高职院校幸福组织指标的制定
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-04-08 DOI: 10.60027/iarj.2024.274838
Rattavikran Pradubsert, Pongphop Phoojomjit, Kritkanok Duangchatom
{"title":"The Development of Happy Organization Indicators of Private Vocational Colleges in The Northeast","authors":"Rattavikran Pradubsert, Pongphop Phoojomjit, Kritkanok Duangchatom","doi":"10.60027/iarj.2024.274838","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.274838","url":null,"abstract":"Background and Aims: The concept of a happiness organization is another idea aimed at promoting the quality of life in the workplace for individuals. It believes that fostering relationships within the organization leads to happiness. The feeling of being valued and having a sense of worth to the organization creates a sense of commitment, joy, love in work, and devotion to the organization. ready to dedicate physical and mental strength to contribute fullest potential of the organization. This research aims, to development of happy organization indicators and to test the goodness of fit of the structural relationship model of happy organization indicators of private vocational colleges in the Northeast with empirical data.\u0000Methodology: The research is divided into 2 phases. Phases 1 to development of happy organization indicators. The key informants group consisted of 9 experts, a sample group of 490 administrators and teachers. The research instrument is an interview form and a questionnaire. Statistics to analyze data by mean and standard deviation. Phase 2 to test the goodness of fit of the structural relationship model happy organization indicators of private vocational colleges in the Northeast with the empirical data, by second-order confirmatory factor analysis.\u0000Results: The indicators of the happy organization of private vocational colleges in the Northeast comprised 5 factors and 25 indicators, Happy people 5 indicators, Happy home 5 indicators, Organizational culture 5 indicators, Job satisfaction 5 indicators, and Happy Teamwork 5 indicators. 2. The goodness of fit of the structural relationship model of happy organization indicators of private vocational colleges in the Northeast. It was in good agreement with the empirical data, with Chi-Square = 3853.531, df = 270, P-Value = 0.000, CMIN/df. = 1.428, CFI = .962, GFI = 0.929 TLI = .958, AGFI= 0.915, RMSEA=0.033 RMR= 0.030, NFI= 0.886, IFI= 0.963. Every component had a statistically significant relationship at the 0.001 level.\u0000Conclusion: The consideration of workplace happiness is deemed a crucial factor in organizational management, particularly in the realm of human resource management. It has a significant impact on an individual level, fostering greater motivation and effectiveness in the workplace, and creating an atmosphere of happiness in the educational environment, administrators, teachers, and students collaboratively work together with full dedication and ability, resulting in improved operations and increased efficiency and effectiveness. Creating a positive image for the organization, and most importantly, the ultimate product of the educational institution: students who receive instruction from teachers working joyfully","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"259 2","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-04-08","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"140730565","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
การสร้างชุมชนเข้มแข็งกับการพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากของไทย การสร้างชุมชนเข้มแข็งกับการพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากของไทย
Interdisciplinary Academic and Research Journal Pub Date : 2024-04-08 DOI: 10.60027/iarj.2024.276085
บรรเจิด สิงคะเนติ
{"title":"การสร้างชุมชนเข้มแข็งกับการพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากของไทย","authors":"บรรเจิด สิงคะเนติ","doi":"10.60027/iarj.2024.276085","DOIUrl":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276085","url":null,"abstract":"บทคัดย่อ :\u0000จากการศึกษาเรื่องการสร้างชุมชนเข้มแข็งกับการพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากของไทย โดยศึกษาถึง 1. แนวคิดเรื่องประชาธิปไตยในระดับชุมชนท้องถิ่น 2. สภาพสังคมวิทยาพื้นฐานของการสร้างประชาธิปไตยฐานรากของไทย  3. แนวทางในการสร้างประชาธิปไตยในระดับชุมชนท้องถิ่นของไทย  และ  4. บทสังเคราะห์สรุปจากการดำเนินงานในครึ่งปีแรก แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชนในสังคมไทย แต่ทั้งนี้จะต้องหาแนวทางและวางมาตรการกลไกที่จะพัฒนาให้เกิด “พื้นที่กลาง” ในแต่ละชุมชน  โดยเฉพาะ “พื้นที่กลาง” ในระดับจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องประสานงานกับองค์กรภาคีเครือข่ายที่ทำงานกับภาคประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ถึงเป้าหมายในการที่จะสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในพื้นที่  หากชุมชนในแต่ละพื้นที่มีความเข้มแข็งมีความเป็นเอกภาพ ชุมชนจะมีบทบาทอย่างสำคัญในการช่วยเหลือภาครัฐในการบริหารจัดการในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ เมื่อประชาชนในพื้นที่มีบทบาทสำคัญในการร่วมแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของตนเองได้ รากฐานเหล่านี้จะนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในทางโครงสร้างและจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของประชาธิปไตยอัตลักษณ์ไทยที่วางพื้นฐานสำคัญอยู่ที่ชุมชน","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"75 5","pages":""},"PeriodicalIF":0.0,"publicationDate":"2024-04-08","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":null,"resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":"140729516","PeriodicalName":null,"FirstCategoryId":null,"ListUrlMain":null,"RegionNum":0,"RegionCategory":"","ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":"","EPubDate":null,"PubModel":null,"JCR":null,"JCRName":null,"Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
0
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
确定
请完成安全验证×
相关产品
×
本文献相关产品
联系我们:info@booksci.cn Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。 Copyright © 2023 布克学术 All rights reserved.
京ICP备2023020795号-1
ghs 京公网安备 11010802042870号
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:604180095
Book学术官方微信