{"title":"ประสบการณ์ความจำบกพร่องในผู้สูงอายุ","authors":"วิวินท์ ปุรณะ","doi":"10.60099/jtnmc.v39i01.265864","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"บทนำ ปัญหาความจำบกพร่องเป็นหนึ่งในปัญหาของผู้สูงอายุที่อาจเป็นได้ทั้งความเสื่อม ตามวัยปกติและจากการมีภาวะสมองเสื่อมก่อนเวลาเนื่องจากเมื่อมีอายุมากขึ้นร่างกายจะมีความเสื่อมถอยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากพยาธิสภาพที่มีการตายของเซลล์ประสาทในสมอง หลายบริเวณส่งผลให้ผู้สูงอายุเกิดการถดถอยของความจำ ขาดความมั่นใจในตนเองเกิดความเครียด ความกลัว ต้องพึ่งพาผู้อื่นและนำไปสู่การขาดแรงจูงใจในการดำเนินชีวิตประจำวันและขาดสังคมของผู้สูงอายุ \nวัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อศึกษาประสบการณ์ความจำบกพร่องในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ \nการออกแบบการวิจัย การวิจัยเชิงคุณภาพแบบพรรณนา \nวิธีดำเนินการวิจัย ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งของจังหวัด ทางภาคกลาง เลือกแบบเฉพาะเจาะจงตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 15 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกตามเวลาที่ผู้ให้ข้อมูลสะดวกเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-ตุลาคม พ.ศ. 2566 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาตามแนวคิดของ Sandelowski มีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล การยืนยันความถูกต้องของข้อมูลและการนำผลการวิจัยไปใช้อ้างอิง \nผลการวิจัย ประสบการณ์ความจำบกพร่องในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุสรุปได้เป็น 3 ประเด็นหลัก ดังนี้ 1) อาการหลงลืม ประกอบด้วย การรับรู้ว่ามีอาการหลงลืม กิจวัตรประจำวันที่หลงลืม อาการหลงลืม ที่เกิดภายนอกบ้าน 2) อารมณ์เปลี่ยนแปลง ได้แก่ ผลของการหลงลืม ประกอบด้วย อารมณ์หงุดหงิด ความกังวลและกลัว และ 3) การจัดการเมื่อหลงลืม ประกอบด้วย การเริ่มต้นใหม่ การช่วยเหลือโดยญาติ การกำหนดจุดวางของให้ชัดเจน การทำกิจกรรม \nข้อเสนอแนะ ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า อาการหลงลืม อารมณ์เปลี่ยนแปลง และการจัดการ เมื่อหลงลืมเป็นประสบการณ์สำคัญของผู้สูงอายุ ทีมสุขภาพสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนร่วมกับครอบครัวของผู้สูงอายุเพื่อการคัดกรอง ติดตามและจัดกิจกรรมกระตุ้นความจำเพื่อชะลอภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ","PeriodicalId":507625,"journal":{"name":"The Journal of Thailand Nursing and Midwifery Council","volume":null,"pages":null},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-03-26","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"The Journal of Thailand Nursing and Midwifery Council","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60099/jtnmc.v39i01.265864","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
ประสบการณ์ความจำบกพร่องในผู้สูงอายุ
มติลาลาลาลาลาจำบกพร่องเป็นหนึ่งในปัญหาของผู้สูงอายุที่อาจเป็นได้ทั้งความเสือมตามวัยปกติและจาการมีภาวะสมองเสือมก่อนเวลาเมออืหลายบริเวณส่งผลให้ผู้สูงอายุเกิดการถดถอยของความจำ ขาดความมั่นใจในตนเองเกิดความเครียด ความกลัว ต้องพึ่งพาผู้อื่นและนำไปสู่การขาดแรงจูงใจในการดำเนินชีวิตประจำวันและขาดสังคมของผู้สูงอายุวัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อศึกษาประสบการณ์ความจำบกพร่องในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ การออกแบบการวิจัย การวิจัยเชิงคุณภาพแบบพรรณนา วิธีดำเนินการวิจัย ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งของจังหวัด ทางภาคกลาง เลือกแบบเฉพาะเจาะจงตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 15 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกตามเวลาที่ผู้ให้ข้อมูลสะดวกเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-ตุลาคม พ.ศ.2566 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนือหาตามแนวคิดของ Sandelowski มีการตรวจอสบความน่าเชือถือของข้อมูลการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลและการนำผลการวิจัยไปใชีวิตปะจำวันของผูสูงอายุสรุไปด้เป็น3 ประเด็น หลัก ดังนี้ 1) อาการหลงลืม ประกอบด้วย การับรู้ว่ามี้อาการหลงลืม กจิวัตรประจำวันที่หลงลืม อาการหลงลืม ที่เกิดภายนอกบาน 2) อารมณ์เปลี่ยนแปลง ได้แก่ ผลของการหลงลืม ประกอบด้วย3) การจัดการเม่อยหงลืม ประกอบด้วย การเริ่มต้นใหม่ การช่วยเหลอืโดยญาติการกำหนดจุดวางของใหชัดเจน การทำกิจกรรม ข้อเสนอแนะ ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า อารมณ์เปลี่ยนแปลงและการจัดการเมือหลงลืมเป็นประสบการณ์สำคัญของผู้สูงอายุ ทีมสุขภาพสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนร่วมกับคอรบครรวัของผู้สูงอายุเพ่อการคัดกรองติดตามและจัดกิจกรรมกระตุ้นควาจมำเพื่อชะลอภาวะสมองเสือมของผู้สูงอายุ
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。