รัชดาพร คงแสนคำ, สุพัตรา กาลรัตน์, ศิริลักษณ์ ช่วงมี, เสาวนีย์ โปษกะบุตร, ปัทมา รักเกื้อ
{"title":"ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชน ในตำบลจะทิ้งพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา","authors":"รัชดาพร คงแสนคำ, สุพัตรา กาลรัตน์, ศิริลักษณ์ ช่วงมี, เสาวนีย์ โปษกะบุตร, ปัทมา รักเกื้อ","doi":"10.55164/hsjt.v5i3.258926","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"การวิจัยเชิงสำรวจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรม และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชนในตำบลจะทิ้งพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 307 คน สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีอย่างง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติถดถอยพหุคูณโลจิสติก ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภาพรวมอยู่ในระดับดี (ร้อยละ 92.18) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ การเข้าถึงบริการสุขภาพ แรงสนับสนุนจากครอบครัว การกระตุ้นเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. และผู้นำชุมชน โดยที่การเข้าถึงบริการสุขภาพระดับสูงมีพฤติกรรมดีกว่า 2.07 เท่า (ORadj = 2.07, 95%CI: 1.19-3.61) แรงสนับสนุนจากครอบครัวระดับสูงมีพฤติกรรมดีกว่า 2.47 เท่า (ORadj = 2.47, 95%CI: 1.22-4.13) และการกระตุ้นเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. และผู้นำชุมชนระดับสูงมีพฤติกรรมดีกว่า 2.25 เท่า (ORadj = 2.25, 95%CI: 1.22-4.13) ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ และให้แรงสนับสนุนทางสังคมทั้งจากครอบครัว เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. และผู้นำชุมชนอย่างต่อเนื่อง","PeriodicalId":157908,"journal":{"name":"Health Science Journal of Thailand","volume":"60 1","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2023-07-17","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Health Science Journal of Thailand","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.55164/hsjt.v5i3.258926","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชน ในตำบลจะทิ้งพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
การวิจัยเชิงสำรวจครังนี้มีวัตัถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมและปัจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรมการป้องกันตันเองจาการติเชื้ไวรัสโคอรนา2019 ของประชาชนในตำบลจะทิ้งพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนอายุ 18 ปีึข้นไปจำนวน 307 คน สุ่มตัวอย่างด้วยวิธียอ่างง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบสอบถาม วิเคราหะ์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติถดถอยหุคูณโลจิสติกผลการวิจัยพบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมการป้องกันตนเองจาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภาพรวมอยู่ในระดับดี (ร้อยละ 92.18) ปัจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างมีนัยสำคัญทางสถติเด้ากแด่ การเข้าถึงบรกิารสุขภาพ แรงสนับสนจนากครอบครัว การกระตุ้นเตอืนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอสม.แดะผู้นำชุมชน โดยที่การเข้าถึงรบิการสุขภาพระดับสูงมีพฤติกรรมดีกว่า 2.07 เท่า (ORadj = 2.07, 95%CI: 1.19-3.61) แรงสนับสนุนจากครอบครัวระดับสูงมีพฤติกรมดีกว่า 2.47 เท่า (ORadj = 2.47, 95%CI: 1.22-4.13) และการกระตุ้นเตอืนจากเจ้าหนาที่สาธารณสุข อสม.และผู้นำชุมชนระดับสูงมีพฤติกรรมดีกว่า 2.25 เท่า (ORadj = 2.25, 95%CI: 1.22-4.13) เท่า (ORadj = 2.25) 95%CI: 1.22-4.เด็การปอ้งกันตเองจาการติดเชือธารณสุข อสม.และผู้นำชุมชนอย่างต่อเนือง
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。