แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2

รหัสดาว ไกรศิริ, ชยากานต์ เรืองสุวรรณ
{"title":"แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2","authors":"รหัสดาว ไกรศิริ, ชยากานต์ เรืองสุวรรณ","doi":"10.60027/iarj.2024.275508","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์การวิจัย: ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีอิทธิพลต่อคุณภาพการสอนของครู และนำมาซึ่งความมีประสิทธิผลในสถานศึกษา ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีความสำคัญในการสร้างอิทธิพลหรือการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ร่วมงานเชื่อถือยอมรับและศรัทธา ให้เกิดความร่วมมือต่อ การเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งด้านการบริหารงานวิชาการ โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอนของครู ให้ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้มาตรฐานการศึกษาบรรลุ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2\nระเบียบวิธีการวิจัย : การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่าง 310 คน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 83 คน และครูผู้สอน จำนวน 227 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.80 - 1.00 มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับบเท่ากับ 0.96 และมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.35 - 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีการเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เพื่อศึกษาแนวทาง และ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เพื่อประเมินแนวทาง เครื่องมือ คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทาง\nผลการวิจัย: 1. สภาพปัจจุบันโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นอยู่ระหว่าง 0.30 - 0.34 เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร 2) ด้านการนิเทศและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 3) ด้านการจัดการเรียนรู้ 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย 2. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 24 แนวทาง ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร มี 5 แนวทาง 2) ด้านการนิเทศและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา มี 4 แนวทาง 3) ด้านการจัดการเรียนรู้ มี 4 แนวทาง 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ มี 5 แนวทาง และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย มี 5 แนวทาง และมีผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้โดยรวมของแนวทางอยู่ในระดับมากที่สุด  \nสรุปผล: ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาเป็นความสามารถในการนำบุคลากรของสถานศึกษาให้ร่วมมือปฏิบัติงานจนบรรลุเป้าหมายของสถานศึกษา โดยเฉพาะงานด้านวิชาการซึ่งเป็นงานหลักที่สำคัญที่สุดในการบริหารและจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีความรู้ความเข้าใจขอบข่ายเนื้อหาและหลักการบริหารงานอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับขอบข่ายงานวิชาการ ด้านหลักสูตรและการบริหารหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการนิเทศภายในด้านการวัดและประเมินผลการศึกษา และด้านการประกันคุณภาพการศึกษา","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"90 10","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-07-24","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":"{\"title\":\"แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2\",\"authors\":\"รหัสดาว ไกรศิริ, ชยากานต์ เรืองสุวรรณ\",\"doi\":\"10.60027/iarj.2024.275508\",\"DOIUrl\":null,\"url\":null,\"abstract\":\"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์การวิจัย: ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีอิทธิพลต่อคุณภาพการสอนของครู และนำมาซึ่งความมีประสิทธิผลในสถานศึกษา ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีความสำคัญในการสร้างอิทธิพลหรือการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ร่วมงานเชื่อถือยอมรับและศรัทธา ให้เกิดความร่วมมือต่อ การเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งด้านการบริหารงานวิชาการ โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอนของครู ให้ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้มาตรฐานการศึกษาบรรลุ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2\\nระเบียบวิธีการวิจัย : การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่าง 310 คน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 83 คน และครูผู้สอน จำนวน 227 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.80 - 1.00 มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับบเท่ากับ 0.96 และมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.35 - 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีการเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เพื่อศึกษาแนวทาง และ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เพื่อประเมินแนวทาง เครื่องมือ คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทาง\\nผลการวิจัย: 1. สภาพปัจจุบันโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นอยู่ระหว่าง 0.30 - 0.34 เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร 2) ด้านการนิเทศและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 3) ด้านการจัดการเรียนรู้ 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย 2. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 24 แนวทาง ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร มี 5 แนวทาง 2) ด้านการนิเทศและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา มี 4 แนวทาง 3) ด้านการจัดการเรียนรู้ มี 4 แนวทาง 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ มี 5 แนวทาง และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย มี 5 แนวทาง และมีผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้โดยรวมของแนวทางอยู่ในระดับมากที่สุด  \\nสรุปผล: ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาเป็นความสามารถในการนำบุคลากรของสถานศึกษาให้ร่วมมือปฏิบัติงานจนบรรลุเป้าหมายของสถานศึกษา โดยเฉพาะงานด้านวิชาการซึ่งเป็นงานหลักที่สำคัญที่สุดในการบริหารและจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีความรู้ความเข้าใจขอบข่ายเนื้อหาและหลักการบริหารงานอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับขอบข่ายงานวิชาการ ด้านหลักสูตรและการบริหารหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการนิเทศภายในด้านการวัดและประเมินผลการศึกษา และด้านการประกันคุณภาพการศึกษา\",\"PeriodicalId\":505621,\"journal\":{\"name\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"volume\":\"90 10\",\"pages\":\"\"},\"PeriodicalIF\":0.0000,\"publicationDate\":\"2024-07-24\",\"publicationTypes\":\"Journal Article\",\"fieldsOfStudy\":null,\"isOpenAccess\":false,\"openAccessPdf\":\"\",\"citationCount\":\"0\",\"resultStr\":null,\"platform\":\"Semanticscholar\",\"paperid\":null,\"PeriodicalName\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"FirstCategoryId\":\"1085\",\"ListUrlMain\":\"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275508\",\"RegionNum\":0,\"RegionCategory\":null,\"ArticlePicture\":[],\"TitleCN\":null,\"AbstractTextCN\":null,\"PMCID\":null,\"EPubDate\":\"\",\"PubModel\":\"\",\"JCR\":\"\",\"JCRName\":\"\",\"Score\":null,\"Total\":0}","platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275508","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0

摘要

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์การวิจัย:ภาวะผู้นำทางวิชากรของผู้บริหารสถานศึกษามีอิทธิพลต่อคุณภาพการสอนของครู และนำมาซึ่งความมปีระสิทธิผลในสถานศึกษาภาวะผู้นำทางวิชากรของผู้บรองหารสถานศึกษามีความสำคั↪LoE0D↩↪LoE43↩นการสร้างอิท↪LoE18↩พลหอืการสร้างแดงจง↪LoE43↩จ↪LoE43↩ห้ผู้่รวมงานเช่อ↪LoE16↩ือยอมรั↪LoE28↩รัท↪LoE18↩าให้เกิดความร่วมมือต่อ การเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งด้านการบริหารงานวิชาการ โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอนของครู ให้ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้มาตรฐานการศึกษาบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งวไ้ ดังนั้นการวจัยครั้งนี้จงึมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพจัปจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้งการจำเป็นภาวะผู้นำทงาวิชาการของผู้บริหารสถานศึษาสังกัดสำนังกานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 และเพื่อศึกษาแนวทางการอฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการอขงผู้บริหารสถานศึษาสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขตร 2ะเบียบวิธีการวิจัย :การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจุบัน สภาพที่พึงประสงค์แลคะวามต้องการจำเป็นภาวะผู้นำททงงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตวัยาง 310 คนศึกษา จำนวน 83 คน และครูผู้สอน จำนวน 227 คน สุ่มตวัอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งช้ันภูมิ เครื่องมือที่ใช้อือแบสอบถาม มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.80 - 1.00 มีค่าความเช่ือมั่นของบบสอบถามทั้งฉบบับเท่ากับ 0.96 และมีค่าอำนาจำแนกอยู่ระหวาง 0.35 - 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมตารฐาน และค่าดชันีการเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นระยะที่ 2 ศึกษาแนวาทงการพัฒนาภาวะผู้นทำางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มผู้ให้ขออมูลสำคัญได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เพื่อศึกษาแนวทาง และ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เพื่อประเมินแนวทาง เครื่องมือ คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางผลการวิจัย:1. สภาพปัจจุบันโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมยู่ในระดับมากที่สุด และมีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นอยู่ระหว่าง 0.30 - 0.34 เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหารอกสูตร 2) ด้านการนิเทศและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา3) ด้านการจัดการเรียนรู้ 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย 2.แนวาทงการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 24 แนวาทง ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหลักสูตรมี 5 แนวทาง 2) ด้านารนิเทศและการพัฒนาระบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา มี 4 แนวทาง 3) ด้านารจัดากรเรียนรู้มี 4 แนวทาง 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ มี 5 แนวทาง และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย มี 5 แนวทาง และมีผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้โดยรวมของแนวทางอยู่ในระดับมากที่สุด สรุปผล:ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บรองถานศึกษาเป็นความสามารถในการนำบุคลากรของสถานศึกษานศึกษานโดยเฉพาะงานวิชาการซึ่งเป็นานหลักที่สุดในการบรินารศึกษาในศึกษาให้มีรปะสิทธิภาพผู้าศึกษาต้องมีความรู้ควาเข้าใจขอบข่ายเนื้อหาแดมิชนศภายในด้านการวัดและประเมินผลการศึษกา และด้านการประกันคุณภาพการศึษกา
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。
แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์การวิจัย: ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีอิทธิพลต่อคุณภาพการสอนของครู และนำมาซึ่งความมีประสิทธิผลในสถานศึกษา ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีความสำคัญในการสร้างอิทธิพลหรือการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ร่วมงานเชื่อถือยอมรับและศรัทธา ให้เกิดความร่วมมือต่อ การเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งด้านการบริหารงานวิชาการ โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอนของครู ให้ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้มาตรฐานการศึกษาบรรลุ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 ระเบียบวิธีการวิจัย : การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่าง 310 คน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 83 คน และครูผู้สอน จำนวน 227 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.80 - 1.00 มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับบเท่ากับ 0.96 และมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.35 - 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีการเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เพื่อศึกษาแนวทาง และ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เพื่อประเมินแนวทาง เครื่องมือ คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทาง ผลการวิจัย: 1. สภาพปัจจุบันโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นอยู่ระหว่าง 0.30 - 0.34 เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร 2) ด้านการนิเทศและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 3) ด้านการจัดการเรียนรู้ 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย 2. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 24 แนวทาง ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร มี 5 แนวทาง 2) ด้านการนิเทศและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา มี 4 แนวทาง 3) ด้านการจัดการเรียนรู้ มี 4 แนวทาง 4) ด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งการเรียนรู้ มี 5 แนวทาง และ 5) ด้านการวัดประเมินผลและวิจัย มี 5 แนวทาง และมีผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้โดยรวมของแนวทางอยู่ในระดับมากที่สุด   สรุปผล: ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาเป็นความสามารถในการนำบุคลากรของสถานศึกษาให้ร่วมมือปฏิบัติงานจนบรรลุเป้าหมายของสถานศึกษา โดยเฉพาะงานด้านวิชาการซึ่งเป็นงานหลักที่สำคัญที่สุดในการบริหารและจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีความรู้ความเข้าใจขอบข่ายเนื้อหาและหลักการบริหารงานอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับขอบข่ายงานวิชาการ ด้านหลักสูตรและการบริหารหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการนิเทศภายในด้านการวัดและประเมินผลการศึกษา และด้านการประกันคุณภาพการศึกษา
求助全文
通过发布文献求助,成功后即可免费获取论文全文。 去求助
来源期刊
自引率
0.00%
发文量
0
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
确定
请完成安全验证×
copy
已复制链接
快去分享给好友吧!
我知道了
右上角分享
点击右上角分享
0
联系我们:info@booksci.cn Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。 Copyright © 2023 布克学术 All rights reserved.
京ICP备2023020795号-1
ghs 京公网安备 11010802042870号
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:481959085
Book学术官方微信