{"title":"ผลของการใช้กลวิธี REAP ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3","authors":"พิมลกร ทวยหาญ, เพชร วิจิตรนาวิน","doi":"10.60027/iarj.2024.276607","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์มีความสําคัญต่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ในการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ผลการประเมิน PISA ปี 2022 พบว่าทักษะการอ่านของเด็กไทยมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของโรงเรียนวิวัฒน์วิทยา (นามสมมติ) พบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ สาเหตุมาจากนักเรียนขาดทักษะการวิเคราะห์เนื้อหาจากบทอ่านและไม่สามารถเขียนสรุปความคิดของตนเองได้ นอกจากนี้ครูผู้สอนอาจจะยังขาดองค์ความรู้ในการจัดการเรียนรู้เรื่องทักษะการอ่าน ผู้วิจัยจึงสนใจจะพัฒนาความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกลวิธี REAP ซึ่งการวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลของการใช้กลวิธี REAP ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยเปรียบเทียบค่ามัธยฐานของคะแนนความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการทดลอง\nระเบียบวิธีการวิจัย: ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นประชากรกลุ่มเป้าหมาย (target population) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวิวัฒน์วิทยา (นามสมมติ) ห้อง ม. 3/1 จำนวน 31 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โดยใช้วิธีการเลือกแบบแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ และเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธี REAP จำนวน 6 แผน ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่ามัธยฐานและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่านัยสำคัญของความแตกต่างโดยใช้สถิติทดสอบ Wilcoxon test\nผลการวิจัย: นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธี REAP มีค่ามัธยฐานของคะแนนความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัย\nสรุปผล: กลวิธี REAP สามารถพัฒนาความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ โดยช่วยให้ผู้อ่านได้จัดระเบียบทางความคิดขณะอ่าน และมีการโต้ตอบกับบทอ่านอย่างเป็นระบบ ประกอบกับผู้อ่านได้พัฒนาทักษะการเขียนควบคู่กับการอ่านไปด้วย ตลอดจนอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดร่วมกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนสูงขึ้นตามลำดับ","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"51 28","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-07-25","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":"{\"title\":\"ผลของการใช้กลวิธี REAP ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3\",\"authors\":\"พิมลกร ทวยหาญ, เพชร วิจิตรนาวิน\",\"doi\":\"10.60027/iarj.2024.276607\",\"DOIUrl\":null,\"url\":null,\"abstract\":\"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์มีความสําคัญต่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ในการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ผลการประเมิน PISA ปี 2022 พบว่าทักษะการอ่านของเด็กไทยมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของโรงเรียนวิวัฒน์วิทยา (นามสมมติ) พบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ สาเหตุมาจากนักเรียนขาดทักษะการวิเคราะห์เนื้อหาจากบทอ่านและไม่สามารถเขียนสรุปความคิดของตนเองได้ นอกจากนี้ครูผู้สอนอาจจะยังขาดองค์ความรู้ในการจัดการเรียนรู้เรื่องทักษะการอ่าน ผู้วิจัยจึงสนใจจะพัฒนาความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกลวิธี REAP ซึ่งการวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลของการใช้กลวิธี REAP ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยเปรียบเทียบค่ามัธยฐานของคะแนนความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการทดลอง\\nระเบียบวิธีการวิจัย: ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นประชากรกลุ่มเป้าหมาย (target population) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวิวัฒน์วิทยา (นามสมมติ) ห้อง ม. 3/1 จำนวน 31 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โดยใช้วิธีการเลือกแบบแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ และเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธี REAP จำนวน 6 แผน ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่ามัธยฐานและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่านัยสำคัญของความแตกต่างโดยใช้สถิติทดสอบ Wilcoxon test\\nผลการวิจัย: นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธี REAP มีค่ามัธยฐานของคะแนนความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัย\\nสรุปผล: กลวิธี REAP สามารถพัฒนาความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ โดยช่วยให้ผู้อ่านได้จัดระเบียบทางความคิดขณะอ่าน และมีการโต้ตอบกับบทอ่านอย่างเป็นระบบ ประกอบกับผู้อ่านได้พัฒนาทักษะการเขียนควบคู่กับการอ่านไปด้วย ตลอดจนอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดร่วมกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนสูงขึ้นตามลำดับ\",\"PeriodicalId\":505621,\"journal\":{\"name\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"volume\":\"51 28\",\"pages\":\"\"},\"PeriodicalIF\":0.0000,\"publicationDate\":\"2024-07-25\",\"publicationTypes\":\"Journal Article\",\"fieldsOfStudy\":null,\"isOpenAccess\":false,\"openAccessPdf\":\"\",\"citationCount\":\"0\",\"resultStr\":null,\"platform\":\"Semanticscholar\",\"paperid\":null,\"PeriodicalName\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"FirstCategoryId\":\"1085\",\"ListUrlMain\":\"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276607\",\"RegionNum\":0,\"RegionCategory\":null,\"ArticlePicture\":[],\"TitleCN\":null,\"AbstractTextCN\":null,\"PMCID\":null,\"EPubDate\":\"\",\"PubModel\":\"\",\"JCR\":\"\",\"JCRName\":\"\",\"Score\":null,\"Total\":0}","platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276607","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0