{"title":"ผลของการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) ที่มีต่อสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย","authors":"ยุทธพิชัย ชาญเลขา, ธวัชชัย ไกรทองสุข","doi":"10.60027/iarj.2024.275563","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การออกกำลังกายด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักเป็นช่วง มีความสำคัญต่อการแข่งขันกีฬาประเภทต่อสู้ เนื่องด้วยมีการแข่งขันเป็นยกและมีการแข่งขันที่ใช้พลังร่างกายความเร็วซึ่งใช้พลังแอโรบิกและแอนแอโรบิก ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาและเปรียบเทียบผลของการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักที่มีต่อสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักที่มีต่อสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย\nระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักกีฬาวูซูทีมชาติไทย เพศชาย จำนวน 10 คน มีการฝึกซ้อม 3 ครั้งต่อสัปดาห์รวมเป็น 8 สัปดาห์ โดยมีการเก็บข้อมูลก่อนการฝึกซ้อมและหลังการฝึกซ้อมมีการทดสอบสมรรถภาพทางกายแอนแอโรบิกด้วยจักรยานวัดงานของวินเกท (Wingate Anaerobic Test) และจักรยานวัดงานของแอสตรานด์และไรห์มิ่ง (Astrand-Rhyming) ก่อนการใช้โปรแกรมฝึกและวิเคราะห์ความแตกต่างของข้อมูลก่อนและหลังโดยใช้วิธีการวัดซ้ำของ 1 กลุ่มตัวอย่าง (Paired-sample t-Tests)\nผลการวิจัย: ผลการวิเคราะห์แสดงผลการทดสอบค่าก่อนและหลังการทดสอบแบบแอนแอโรบิของอาสาสมัครจำนวน 10 คน พบว่า ค่า Anaerobic Capacity ก่อนการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 8.86 ± 0.12 (W.kg-1) หลังการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 9.71 ± 0.15 (W.kg-1) ค่า VO2max ก่อนการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.75 ± 1.66 (ml/kg/min) หลังการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 4.71 ± 0.15 (ml/kg/min)\nสรุปผล: การเปรียบเทียบก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักก่อนและหลังการฝึกในการพัฒนาสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย พบว่า ผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการเปรียบเทียบความแตกต่างก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการพัฒนาเพิ่มขึ้นระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"46 25","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-06-05","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":"{\"title\":\"ผลของการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) ที่มีต่อสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย\",\"authors\":\"ยุทธพิชัย ชาญเลขา, ธวัชชัย ไกรทองสุข\",\"doi\":\"10.60027/iarj.2024.275563\",\"DOIUrl\":null,\"url\":null,\"abstract\":\"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การออกกำลังกายด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักเป็นช่วง มีความสำคัญต่อการแข่งขันกีฬาประเภทต่อสู้ เนื่องด้วยมีการแข่งขันเป็นยกและมีการแข่งขันที่ใช้พลังร่างกายความเร็วซึ่งใช้พลังแอโรบิกและแอนแอโรบิก ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาและเปรียบเทียบผลของการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักที่มีต่อสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักที่มีต่อสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย\\nระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักกีฬาวูซูทีมชาติไทย เพศชาย จำนวน 10 คน มีการฝึกซ้อม 3 ครั้งต่อสัปดาห์รวมเป็น 8 สัปดาห์ โดยมีการเก็บข้อมูลก่อนการฝึกซ้อมและหลังการฝึกซ้อมมีการทดสอบสมรรถภาพทางกายแอนแอโรบิกด้วยจักรยานวัดงานของวินเกท (Wingate Anaerobic Test) และจักรยานวัดงานของแอสตรานด์และไรห์มิ่ง (Astrand-Rhyming) ก่อนการใช้โปรแกรมฝึกและวิเคราะห์ความแตกต่างของข้อมูลก่อนและหลังโดยใช้วิธีการวัดซ้ำของ 1 กลุ่มตัวอย่าง (Paired-sample t-Tests)\\nผลการวิจัย: ผลการวิเคราะห์แสดงผลการทดสอบค่าก่อนและหลังการทดสอบแบบแอนแอโรบิของอาสาสมัครจำนวน 10 คน พบว่า ค่า Anaerobic Capacity ก่อนการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 8.86 ± 0.12 (W.kg-1) หลังการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 9.71 ± 0.15 (W.kg-1) ค่า VO2max ก่อนการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.75 ± 1.66 (ml/kg/min) หลังการทดสอบ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 4.71 ± 0.15 (ml/kg/min)\\nสรุปผล: การเปรียบเทียบก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการฝึกด้วยความหนักมากแบบเป็นช่วง (HIIT) สลับกับการผ่อนความหนักก่อนและหลังการฝึกในการพัฒนาสมรรถภาพแอนแอโรบิกของนักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติไทย พบว่า ผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการเปรียบเทียบความแตกต่างก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการพัฒนาเพิ่มขึ้นระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05\",\"PeriodicalId\":505621,\"journal\":{\"name\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"volume\":\"46 25\",\"pages\":\"\"},\"PeriodicalIF\":0.0000,\"publicationDate\":\"2024-06-05\",\"publicationTypes\":\"Journal Article\",\"fieldsOfStudy\":null,\"isOpenAccess\":false,\"openAccessPdf\":\"\",\"citationCount\":\"0\",\"resultStr\":null,\"platform\":\"Semanticscholar\",\"paperid\":null,\"PeriodicalName\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"FirstCategoryId\":\"1085\",\"ListUrlMain\":\"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275563\",\"RegionNum\":0,\"RegionCategory\":null,\"ArticlePicture\":[],\"TitleCN\":null,\"AbstractTextCN\":null,\"PMCID\":null,\"EPubDate\":\"\",\"PubModel\":\"\",\"JCR\":\"\",\"JCRName\":\"\",\"Score\":null,\"Total\":0}","platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275563","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0