{"title":"案例研究:丹运河社区、Nakhasakorn省和Nakhon Sriphanraj省的指导方针。","authors":"พิมพกานต์ ปัจจันตวิวัฒน์, บุญอนันต์ นทกุล","doi":"10.56261/jars.v19i2.247297","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"งานวิจัยนี้ศึกษาและวิเคราะห์การรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมในชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์และมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเลือกชุมชนคลองแดนเป็นกรณีศึกษา และเสนอแนะแนวทางในการออกแบบและจัดการพื้นที่ที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนภายในชุมชนดังกล่าว โดยผู้วิจัยใช้วิธีการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพผ่านการวาดแผนที่จินตภาพที่สะท้อนการรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มจำนวน 17 คน ได้แก่ กลุ่มคนในชุมชนคลองแดนและกลุ่มคนนอกชุมชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบกับการถ่ายภาพและการสัมภาษณ์เพื่อหาลักษณะเฉพาะทางกายภาพของสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมนั้น ๆ ต่อมานำผลการวิเคราะห์ในรูปแบบแผนที่ทางวัฒนธรรมกลับไปเปิดวงสนทนากลุ่มระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่เขียนแผนที่จินตภาพข้างต้น ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างสามารถรับรู้และจดจำพื้นที่ในชุมชนซึ่งสะท้อนสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม ที่ผ่านการมีส่วนร่วมกันในชุมชน โดยมีความแตกต่างระหว่างกลุ่มคนในและกลุ่มคนนอกชุมชน 2 ประเด็น คือ (1) การวาดแผนที่จินตภาพ และ (2) การลำดับความสำคัญของพื้นที่ โดยกลุ่มตัวอย่างสามารถรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมทั้งจับต้องได้ จับต้องไม่ได้ และสิ่งที่ปรากฏเพียงในอดีต โดยสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมดังกล่าวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ พื้นที่จุดศูนย์รวมหลัก (nodes) หรือพื้นที่ซึ่งถูกกล่าวถึงมากกว่าร้อยละ 25 ขึ้นไป และพื้นที่จุดศูนย์รวมย่อย (sub nodes) หรือพื้นที่ซึ่งถูกกล่าวถึงน้อยกว่าร้อยละ 25 ขึ้นไปโดยคุณลักษณะกายภาพในพื้นที่ศึกษาสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทางกายภาพเพื่อเสนอแนะแนวทางการจัดการและออกแบบพื้นที่ที่ส่งเสริมการรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนในชุมชนคลองแดน สุดท้ายนี้วิธีการวิเคราะห์และวิจัยการรับรู้สิ่งแวดล้อมทาวัฒนธรรมดังกล่าวอาจนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนและจัดการพื้นที่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งชุมชนอื่น ๆ ในจังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช และชุมชนในพื้นที่อื่น ๆ ที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโดยคนในชุมชน \n ","PeriodicalId":428713,"journal":{"name":"Journal of Architectural/Planning Research and Studies (JARS)","volume":"279 1","pages":"0"},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2022-06-23","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":"{\"title\":\"แนวทางในการออกแบบและจัดการพื้นที่เพื่อส่งเสริมการรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวโดยชุมชน กรณีศึกษา: ชุมชนคลองแดน จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครศรีธรรมราช\",\"authors\":\"พิมพกานต์ ปัจจันตวิวัฒน์, บุญอนันต์ นทกุล\",\"doi\":\"10.56261/jars.v19i2.247297\",\"DOIUrl\":null,\"url\":null,\"abstract\":\"งานวิจัยนี้ศึกษาและวิเคราะห์การรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมในชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์และมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเลือกชุมชนคลองแดนเป็นกรณีศึกษา และเสนอแนะแนวทางในการออกแบบและจัดการพื้นที่ที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนภายในชุมชนดังกล่าว โดยผู้วิจัยใช้วิธีการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพผ่านการวาดแผนที่จินตภาพที่สะท้อนการรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มจำนวน 17 คน ได้แก่ กลุ่มคนในชุมชนคลองแดนและกลุ่มคนนอกชุมชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบกับการถ่ายภาพและการสัมภาษณ์เพื่อหาลักษณะเฉพาะทางกายภาพของสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมนั้น ๆ ต่อมานำผลการวิเคราะห์ในรูปแบบแผนที่ทางวัฒนธรรมกลับไปเปิดวงสนทนากลุ่มระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่เขียนแผนที่จินตภาพข้างต้น ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างสามารถรับรู้และจดจำพื้นที่ในชุมชนซึ่งสะท้อนสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม ที่ผ่านการมีส่วนร่วมกันในชุมชน โดยมีความแตกต่างระหว่างกลุ่มคนในและกลุ่มคนนอกชุมชน 2 ประเด็น คือ (1) การวาดแผนที่จินตภาพ และ (2) การลำดับความสำคัญของพื้นที่ โดยกลุ่มตัวอย่างสามารถรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมทั้งจับต้องได้ จับต้องไม่ได้ และสิ่งที่ปรากฏเพียงในอดีต โดยสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมดังกล่าวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ พื้นที่จุดศูนย์รวมหลัก (nodes) หรือพื้นที่ซึ่งถูกกล่าวถึงมากกว่าร้อยละ 25 ขึ้นไป และพื้นที่จุดศูนย์รวมย่อย (sub nodes) หรือพื้นที่ซึ่งถูกกล่าวถึงน้อยกว่าร้อยละ 25 ขึ้นไปโดยคุณลักษณะกายภาพในพื้นที่ศึกษาสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทางกายภาพเพื่อเสนอแนะแนวทางการจัดการและออกแบบพื้นที่ที่ส่งเสริมการรับรู้สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนในชุมชนคลองแดน สุดท้ายนี้วิธีการวิเคราะห์และวิจัยการรับรู้สิ่งแวดล้อมทาวัฒนธรรมดังกล่าวอาจนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนและจัดการพื้นที่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งชุมชนอื่น ๆ ในจังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช และชุมชนในพื้นที่อื่น ๆ ที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโดยคนในชุมชน \\n \",\"PeriodicalId\":428713,\"journal\":{\"name\":\"Journal of Architectural/Planning Research and Studies (JARS)\",\"volume\":\"279 1\",\"pages\":\"0\"},\"PeriodicalIF\":0.0000,\"publicationDate\":\"2022-06-23\",\"publicationTypes\":\"Journal Article\",\"fieldsOfStudy\":null,\"isOpenAccess\":false,\"openAccessPdf\":\"\",\"citationCount\":\"0\",\"resultStr\":null,\"platform\":\"Semanticscholar\",\"paperid\":null,\"PeriodicalName\":\"Journal of Architectural/Planning Research and Studies (JARS)\",\"FirstCategoryId\":\"1085\",\"ListUrlMain\":\"https://doi.org/10.56261/jars.v19i2.247297\",\"RegionNum\":0,\"RegionCategory\":null,\"ArticlePicture\":[],\"TitleCN\":null,\"AbstractTextCN\":null,\"PMCID\":null,\"EPubDate\":\"\",\"PubModel\":\"\",\"JCR\":\"\",\"JCRName\":\"\",\"Score\":null,\"Total\":0}","platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Journal of Architectural/Planning Research and Studies (JARS)","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.56261/jars.v19i2.247297","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0