{"title":"ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีและผลการดำเนินงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร","authors":"สุนิสา ภู่สงค์, ดวงกมล ชัยศรีษะ, จุฑาธิป จันทร์ทรง","doi":"10.60027/iarj.2024.276718","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญในฐานะกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่มาจากฐานรากหรือประชาชนคนทั่วไปประกอบธุรกิจ ซึ่งการดำเนินธุรกิจให้สามารถเกิดประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จได้นั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลทางการบัญชีที่มีคุณภาพเพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนในการดำเนินงานให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้กำหนดไว้ ดังนั้นในการวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นผลการดำเนินงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร และ 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีกับผลการดำเนินงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร\nระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ ผู้บริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ จำนวน 400 ราย ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียรสัน และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ\nผลการวิจัย: 1) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพข้อมูลทางการบัญชี โดยรวมอยู่ในระดับมาก พบว่า ด้านความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ มีระดับความคิดเห็นมากที่สุด ตามลำดับ 2) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก พบว่า ด้านลูกค้า มีระดับความคิดเห็นมากที่สุด 3) ผลการทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สัมพันธ์เพียรสันของตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม โดยภาพรวมคุณภาพของข้อมูลทางการบัญชี อยู่ในระดับความสัมพันธ์สูง มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ r=0.896 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 และผลการทดสอบความสัมพันธ์ของสัมประสิทธิ์การถดถอยเชิงพหุ พบว่า ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ด้านความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ด้านความสามารถเปรียบเทียบได้ ด้านความสามารถพิสูจน์ยืนยันได้ มีความสัมพันธ์และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของธรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05\nสรุปผล: คุณภาพข้อมูลทางการบัญชีมีความสัมพันธ์และผลกระทบต่อผลการดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในการดำเนินงานของผู้บริหารต้องเจอกับปัญหาต่างๆ จึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลทางการบัญชีมาช่วยในการบริหารงาน โดยเฉพาะความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ความสามารถเปรียบเทียบได้ และความสามารถพิสูจน์ยืนยันได้ เพื่อให้ผู้บริหารได้นำข้อมูลในการพยากรณ์หรือวางแผนการดำเนินงานให้ได้มาซึ่งผลการดำเนินงานที่ดีในการพัฒนาและปรับปรุงองค์กร","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"34 1","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-07-02","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276718","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีและผลการดำเนินงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์:ธุรกจนาดกลางแลกจนาดย่อมเป็นธุรกจที่ีมความสำคัญในฐานกลาไกขับเคลือนเศรษฐกจของประเท↪LoE28↩ที่มาจากฐานรากหรือประชาชนคนทั่วไปประกอบธุรกิจ ซึ่งการดำเนินธุรกิจให้สามารถเกดิประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จได้นันผู้ประกอบการจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลทางการบัญชีที่มีคุณภาเพื่อเป็นเครืองมือสับสนุนในการดำเินงานให้สามารถบรรุวัตถุประสงค์ตามที่ได้กำหนดไว้าดังนั้นในการวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพือ 1)เพือศึษาระดับความคิดเห็นคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีของธรุรงกิจขนาดกลางและขนาด่อในเตกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึษาระดับควาคมิดเห็นผลการดำเนินงานของธุรกจิขนาดกลางและขนาด่อบ3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีกับผลารดำเนินงานของธรุกิจนาดกลางแในเขตกรุงเทพมหานคระเบียบวิธีการวจัย:กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ ผู้บริหารธุรกิจขนาดลกางและขนาด่ยอม ในเตกรุเทพมหานครโดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ จำนวน 400 ราย ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมานเดียยรสัน และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์หสัมพันธ์เพียรสัน และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณผลการวิจัย:1) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพข้อมูลทางการบัญชี โดยรวมอยู่ในระดับมาก พบว่า ด้านควาเมกี่ยวข้องกับการตัดสินใจมีระดับความคิดเห็นมากที่สุด ตามลดำบั 2) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน โดยรรวมอยู่ในระดับากมีระดับควาคมิดเ็นมากที่สุด 3) ผลการทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สมัพันธ์เพียรสันขงอตัวแปรอิสระและตัวแปรตามโดยภาพรวมคุณภาพของข้อมูลทางการบัญชี อยู่ในระดับความสัมพันธ์สูง มีค่าสัมประสิทธิ์สหสมัพันธ์ r=0.896 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 และผลการทดสอบความสัมพันธ์ของสัมประสิทธิ์การถดถอยเชิงพหุ พบว่า ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ด้านควาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ด้านความสามารถเปรียบทียบได้ด้านความสามารรถพิสูจน์ยืนยันได้ มีความสัมพันธ์และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของธรกจขนาดกลางและขนาด่อม ในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05สรุปผล:คุณภาพข้อมูลทางการบัญชีมีความสัมพันธ์และผลกระทบต่อผลการดำเนินธุรกจิขนาดกลางและขนาดย่อม ในเขตกรุงเทพมหานครในการดำเนินงานของผู้บริหารต้องญหาต่างๆ จึงจำเป็ต้องอาศัยข้อมลทางการบัญชีมาช่วยในการบริหารงนโดยเฉพาะควาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ความสามารถเปรียบเทียบได้และความสามารถพิสูจน์ยนยันได้เด็กเด็จน
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。