ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย

มนต์สินี สุปินะ, เอื้อมพร ศิริรัตน์, พิเชษฐ เนตรสว่าง
{"title":"ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย","authors":"มนต์สินี สุปินะ, เอื้อมพร ศิริรัตน์, พิเชษฐ เนตรสว่าง","doi":"10.60027/iarj.2024.275470","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนและจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคและบริโภคที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศไทย  องค์กรธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าต้องพัฒนาองค์กรให้ปรับตัวเท่าทันปัญหาดังกล่าวเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กร  ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย 2) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออก และ 3) แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย\nระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณคือ ผู้บริหารของธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าในประเทศ ใช้วิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ จำนวน 343 คน เครื่องมือที่ใช้วิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และโมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) กลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพคือ ผู้บริหารองค์กรระดับสูงที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 16 คน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา\nผลการวิจัย (1) ประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2) ปัจจัยเชิงสาเหตุทุกด้านมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs และ (3) แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย สำหรับงานวิจัยครั้งนี้มี 6 แนวทาง ได้แก่ 1) พัฒนาความเป็นเลิศในการให้บริการ 2) พัฒนาผู้นำและบุคลากรในองค์กร 3) พัฒนาการวางแผนการตลาดทั้งในและต่างประเทศ 4) พัฒนาด้านเทคโนโลยี 5) พัฒนาวัฒนธรรมองค์กรด้านการมีส่วนร่วม และ 6) พัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล ผลของการวิจัยครั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อค้นพบที่ได้ไปปรับใช้ในเชิงปฏิบัติ ในการบูรณาการงานด้านธุรกิจ SMEs เพื่อความยั่งยืนต่อไป\nสรุปผล: ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า SMEs ไทยมีทักษะสูงในด้านหลักๆ รวมถึงการบริการลูกค้า การเป็นผู้ประกอบการ กลยุทธ์การจัดการ และการรักษาลูกค้า นอกจากนี้ยังระบุตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิตของ SME และเสนอแผนการปรับปรุงที่กำหนดเป้าหมาย โดยเน้นถึงความเป็นไปได้ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนระหว่าง SMEs","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"19 16","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-06-06","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275470","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0

Abstract

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนและจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคและบริโภคที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศไทย  องค์กรธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าต้องพัฒนาองค์กรให้ปรับตัวเท่าทันปัญหาดังกล่าวเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กร  ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย 2) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออก และ 3) แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณคือ ผู้บริหารของธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าในประเทศ ใช้วิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ จำนวน 343 คน เครื่องมือที่ใช้วิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และโมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) กลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพคือ ผู้บริหารองค์กรระดับสูงที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 16 คน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการวิจัย (1) ประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2) ปัจจัยเชิงสาเหตุทุกด้านมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs และ (3) แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย สำหรับงานวิจัยครั้งนี้มี 6 แนวทาง ได้แก่ 1) พัฒนาความเป็นเลิศในการให้บริการ 2) พัฒนาผู้นำและบุคลากรในองค์กร 3) พัฒนาการวางแผนการตลาดทั้งในและต่างประเทศ 4) พัฒนาด้านเทคโนโลยี 5) พัฒนาวัฒนธรรมองค์กรด้านการมีส่วนร่วม และ 6) พัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล ผลของการวิจัยครั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อค้นพบที่ได้ไปปรับใช้ในเชิงปฏิบัติ ในการบูรณาการงานด้านธุรกิจ SMEs เพื่อความยั่งยืนต่อไป สรุปผล: ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า SMEs ไทยมีทักษะสูงในด้านหลักๆ รวมถึงการบริการลูกค้า การเป็นผู้ประกอบการ กลยุทธ์การจัดการ และการรักษาลูกค้า นอกจากนี้ยังระบุตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิตของ SME และเสนอแผนการปรับปรุงที่กำหนดเป้าหมาย โดยเน้นถึงความเป็นไปได้ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนระหว่าง SMEs
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์:ธุรกิจนำเข้าและส่งอกสินค้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซือขาย แลกเปลี่ยนและจำหนายสินค้าเพื่อการอุปโภคและบริภคที่มียู่จำนวมากในประเทศไทย มติลงค์กรธุรกจนำเข้าและส่งอกสินค้าตองพัฒนาองค์กรให้ปรับตัวเท่าทันปัญหาดังกล่าวเพื่อสร้างควมได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กร ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs เพื่อนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย 2) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจSMEs เพื่อนำเข้าส่งอกและ 3) แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกจิ SMEs เพื่อนำเข้าส่งอกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยระเบียบวิธีการิวจัย:การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอยา่งเชิงปริมาณคือ ผู้บริหารของธุรกจินำเข้าส่งอกสินค้าในประเทศ ใช้วิธีการสุ่มแบชั้นภูมิ จำนวน343 คน เครื่องมืที่ใช้วิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะหข์้อมูล ือ ค่าร้อยละ ค่าเลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และโมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling:sem) กลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพคือ ผู้บริหารองค์กรระดับสูงที่มีประสบการณ์ในธุรกจินำเข้าส่งอกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยใช้วิธีการเลอืกลุ่มตัวอย่างแบเจาะจง โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 16 คน中小型企业 ภาพรวมอยู่ในระดับมากก (2) ปัจจัยเชิงสาเหตุทุกด้านมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของธุรกจิSMEs เพื่อนำเข้าส่งอกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย6 แนวทาง ได้แก่ 1) พัฒนาความเป็นเลิศในการให้บริการ 2) พัฒนาผู้นำและบุคลากรในองค์กร3) พัฒนาการวางแผนารตาดทั้งในและต่างประเทศ 4) พัฒนาด้านเทคโนโลยี 5) พัฒนาวัฒนธรรรมงอค์กรด้านการมีส่วนร่วมและ 6) พัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล ผลของการวิจัยครั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อค้นพบที่ได้ไปปรับใช้ในเชิงปฏิบัติ ในการบูรณาการงานด้านธุรกจิ SMEs เพื่อความยั่งยืนติไปสรุปผล:ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า SMEs ไทยมีทักษะสูงในด้านหลักๆ รวมถึงการบริการลูกค้า การเป็นผู้ประกอบการ กลยุทธ์การจัดการ และการรักษาลูกค้า นอกจากนี้ยังระบุตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิตของ中小企业
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。
求助全文
约1分钟内获得全文 求助全文
来源期刊
自引率
0.00%
发文量
0
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
确定
请完成安全验证×
copy
已复制链接
快去分享给好友吧!
我知道了
右上角分享
点击右上角分享
0
联系我们:info@booksci.cn Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。 Copyright © 2023 布克学术 All rights reserved.
京ICP备2023020795号-1
ghs 京公网安备 11010802042870号
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:481959085
Book学术官方微信