การศึกษาบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์

จุฑาทิพย์ ไชยสุริย์, อมร มะลาศรี, คมสันทิ์ ขจรปัญญาไพศาล
{"title":"การศึกษาบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์","authors":"จุฑาทิพย์ ไชยสุริย์, อมร มะลาศรี, คมสันทิ์ ขจรปัญญาไพศาล","doi":"10.60027/iarj.2024.276094","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: นิวนอร์มัล คือ รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีต เนื่องจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มากระทบจนแบบแผนแนวทางปฏิบัติที่คนในสังคมคุ้นเคยต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ภายใต้หลักมาตรฐานใหม่ที่ไม่คุ้นเคย การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันก็เช่นกัน สำหรับผู้เรียนทุกคนต้องพึ่งพาหลายปัจจัยทั้งความพร้อมด้านเทคโนโลยีและความพร้อมของครูในการจัดการเรียนการสอนแบบใหม่เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามผู้บริหารสถานศึกษาก็ต้องมีหลักการทำงานเป็นทีมที่สอดคล้องกับยุคนิวนอร์มัลที่สามารถดึงความรู้ความสามารถของสมาชิกในทีมงานออกมาเพื่อแบ่งปัน และเพื่อร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถจนทำให้การดำเนินงานในสถานศึกษาประสบผลสำเร็จ โดยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ 2) เพื่อศึกษาระดับบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ และ 3) เพื่อเปรียบเทียบระดับบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงานและจำแนกตามขนาดโรงเรียน\nระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ (1) การศึกษาองค์ประกอบของบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ มีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ชนิดมีโครงสร้างที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น (2) การศึกษาและเปรียบเทียบระดับบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงานและขนาดโรงเรียน 2 ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ ในปีการศึกษา 2565 จำนวนทั้งสิ้น 55 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามซึ่งมีลักษณะเป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .92 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ หาร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน\nผลการวิจัย (1) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ ประกอบด้วย 7 บทบาท ได้แก่ 1) ด้านวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน 2) ด้านความร่วมมือและการใช้ความขัดแย้งในทางสร้างสรรค์ 3) ด้านการปฏิบัติงาน 4) ด้านการติดต่อสื่อสาร 5) ด้านภาวะผู้นำ 6) ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และ 7) ด้านการสร้างขวัญและกำลังใจ (2) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (3) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงาน โดยรวมแตกต่างกัน (4) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกัน\nสรุปผล (1) ผู้บริหารโรงเรียนได้เปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติจะส่งผลให้ครูและบุคลากรเกิดขวัญและกำลังใจในการทำงาน มีความรู้สึกในมความเป็นเจ้าของ เกิดความภาคภูมิใจในงานที่ได้กระทำ มีความขยันขันแข็ง กระตือรือร้นที่จะคิดสร้างสรรค์งานให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น (2) เมื่อเกิดความขัดแย้งผู้บริหารโรงเรียนก็สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาความขัดแย้งให้เป็นไปในลักษณะสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับโรงเรียน (3) ผู้บริหารโรงเรียนได้สร้างและพัฒนาการทำงานเป็นทีมอยู่เสมอเพื่อให้แต่ละคนเห็นความสำคัญของงานและผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าความสำคัญของบุคคล บรรยากาศในการทำงาน สภาพแวดล้อมในการทำงาน ผลตอบแทนที่ได้รับความยุติธรรม ความเสมอภาค และการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน (4) ผู้บริหารโรงเรียนมีการสื่อสารกับครูและบุคลากรอย่างเปิดเผย โดยมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารซึ่งกันและกัน เปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรได้แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน (5) ผู้บริหารโรงเรียนมีการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีทักษะของการเป็นผู้นำตามความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสมกับงาน จนทำให้โรงเรียนเกิดการแข่งขันและสามารถผลิตงานใหม่ ๆ ขึ้นมาจนทำให้เกิดการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา (6) ผู้บริหารโรงเรียนเป็นผู้มีบทบาทในการที่จะพัฒนาระบบสารสนเทศภายในโรงเรียนให้ทันสมัยและนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (7) ผู้บริหารโรงเรียนรู้จักการบำรุงขวัญและกำลังใจในโรงเรียนเพื่อให้ได้ผลการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"2 4","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-06-07","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276094","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0

Abstract

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: นิวนอร์มัล คือ รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีต เนื่องจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มากระทบจนแบบแผนแนวทางปฏิบัติที่คนในสังคมคุ้นเคยต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ภายใต้หลักมาตรฐานใหม่ที่ไม่คุ้นเคย การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันก็เช่นกัน สำหรับผู้เรียนทุกคนต้องพึ่งพาหลายปัจจัยทั้งความพร้อมด้านเทคโนโลยีและความพร้อมของครูในการจัดการเรียนการสอนแบบใหม่เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามผู้บริหารสถานศึกษาก็ต้องมีหลักการทำงานเป็นทีมที่สอดคล้องกับยุคนิวนอร์มัลที่สามารถดึงความรู้ความสามารถของสมาชิกในทีมงานออกมาเพื่อแบ่งปัน และเพื่อร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถจนทำให้การดำเนินงานในสถานศึกษาประสบผลสำเร็จ โดยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ 2) เพื่อศึกษาระดับบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ และ 3) เพื่อเปรียบเทียบระดับบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงานและจำแนกตามขนาดโรงเรียน ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ (1) การศึกษาองค์ประกอบของบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ มีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ชนิดมีโครงสร้างที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น (2) การศึกษาและเปรียบเทียบระดับบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงานและขนาดโรงเรียน 2 ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ ในปีการศึกษา 2565 จำนวนทั้งสิ้น 55 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามซึ่งมีลักษณะเป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .92 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ หาร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย (1) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ ประกอบด้วย 7 บทบาท ได้แก่ 1) ด้านวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน 2) ด้านความร่วมมือและการใช้ความขัดแย้งในทางสร้างสรรค์ 3) ด้านการปฏิบัติงาน 4) ด้านการติดต่อสื่อสาร 5) ด้านภาวะผู้นำ 6) ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และ 7) ด้านการสร้างขวัญและกำลังใจ (2) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (3) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงาน โดยรวมแตกต่างกัน (4) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกัน สรุปผล (1) ผู้บริหารโรงเรียนได้เปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติจะส่งผลให้ครูและบุคลากรเกิดขวัญและกำลังใจในการทำงาน มีความรู้สึกในมความเป็นเจ้าของ เกิดความภาคภูมิใจในงานที่ได้กระทำ มีความขยันขันแข็ง กระตือรือร้นที่จะคิดสร้างสรรค์งานให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น (2) เมื่อเกิดความขัดแย้งผู้บริหารโรงเรียนก็สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาความขัดแย้งให้เป็นไปในลักษณะสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับโรงเรียน (3) ผู้บริหารโรงเรียนได้สร้างและพัฒนาการทำงานเป็นทีมอยู่เสมอเพื่อให้แต่ละคนเห็นความสำคัญของงานและผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าความสำคัญของบุคคล บรรยากาศในการทำงาน สภาพแวดล้อมในการทำงาน ผลตอบแทนที่ได้รับความยุติธรรม ความเสมอภาค และการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน (4) ผู้บริหารโรงเรียนมีการสื่อสารกับครูและบุคลากรอย่างเปิดเผย โดยมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารซึ่งกันและกัน เปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรได้แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน (5) ผู้บริหารโรงเรียนมีการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีทักษะของการเป็นผู้นำตามความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสมกับงาน จนทำให้โรงเรียนเกิดการแข่งขันและสามารถผลิตงานใหม่ ๆ ขึ้นมาจนทำให้เกิดการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา (6) ผู้บริหารโรงเรียนเป็นผู้มีบทบาทในการที่จะพัฒนาระบบสารสนเทศภายในโรงเรียนให้ทันสมัยและนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (7) ผู้บริหารโรงเรียนรู้จักการบำรุงขวัญและกำลังใจในโรงเรียนเพื่อให้ได้ผลการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์:นิวนอร์มัล คือ รูปแบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีต เนืองจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาขดอง covid-19 มากระทบจนแบแผนแนวทางปฏิบัติที่คนในสังคมคุ้นเคยต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ภายใต้าหม่ที่ไมคุ้นเคย กรจัดการเรียนการสอนในปจัจุบันก็เช่นกันสำรับผู้อเรียนทุกคนต้องพึ่งพหลายปัจัยทั้งความพร้อมด้านเทคโนโลียและวามพร้อของครูในการจัดการเรียนประสิทธิภาพเด็กเด็กเสถศึกษากต็จ้อองีหาลัการทำงานเป็นทีมที่สออยุคนิวนอร์มัหารถถดึงคนิวนารถขงอสมาชิชกในทีงานออกมาเพออออออืและเพือร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ย่อางเต็มความสามารถจนทำให้ารดำผลสำเร็จโดยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัลสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ 2) เพื่อศึกษาระดับบทบาทของผู้บริหารงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัลสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ และ 3) เพื่อเปรียบเทียบระดับทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการส้างทีมงานในยุคนิวนร์มัลสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธ์ุ จำแนกตามประบสการณ์ในการบริหารในแนกตามขนาดโรงเรียนระเบียบวิธีการวจั:การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ (1) การศึกษาองค์ประกอบของบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ มีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 9 คน ได้มาโดยากรเลือกแบเจาะจง เรื่องมืที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบสัมภาษณ์ชนิดมีโครงสร้างที่ผู้วิจัยสร้างข้น(2) การศึกษาและเปรียบเทียบรดับทบาของผู้บริหารเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงานและขนาดโรงเรียน 2 ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ในปีการศึกษา 2565 จำนวนทั้งสิ้น 55 คน เรื่องมืที่ใช้ในการเ็บรวบรมข้อมูลเป็นแบบสอบถามซึ่งมีลักษณะเป็นแบมตารส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าควมเชื่อมั่น เท่ากับ .92 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ หาร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนามตรฐานผลการวิจัย (1) บทบาขทองผู้บริหารโรงเรียนในการสร้างทีมงานในยุคนิวนอ์รมัลสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ ประกอบด้วย 7 บทบาท ได้แก่ 1) ด้านวัตถ↩ุประสงค์ที่ชดัเจน 2)ด้านความร่วมือและากรใช้ความขัดแย้งในทางสร้างสรค์ 3) ด้านการปฏิบัติงาน 4) ด้านการติด่ตอสื่อสาร 5) ด้านภาวะผู้นำ 6) ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และ7) เดียนารสร้างขวัญและกำลังใจ (2) บทบาทของผู้บริหารรงเรียนในารสร้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์โดยรวมอยู่ในระดับมาก (3) บทบาทของผู้บริหารโงเรียนในการสร้างทีงานในุยคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงาเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากากาฬสินธุ์จำแนกตามประสบการณ์ในการบริหารงาน โดยรวมแกตางกัน (4) บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการรส้างทีมงานในยุคนิวนอร์มัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึษากาฬสินธุนจำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกันสรุปผล (1) ผู้บริหารโรงเรียนได้เปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติจะส่งผลให้ครูและบุคลากรเกิดขวัญและกำลังใจในการทำงานมีความรู้สึเป็นเจ้าของ เกิดความภาคูมิใจในงานที่ได้ากระทำมีความขยันขันแข็ง กระตือรือร้นที่จะคิดสร้างสร์คงานให้ากวหน้ายิ่งขึ้น (2)ผู้ามขัดแย้งผู้ามขัดแย้งผทิญหน้ากับปัญหน้าวามขัดแย้งใหน้งใลักษณสะร้างสรค์และเป็ประโยชน์กับโยงผเรียน (3)ผลตอบแทนที่ได้รับความยุติธรรม ความเสมอภาค และการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน (4) ผู้บริหารโรงเรียนมีการสือสารกับครูและบุคากรอย่างเปิดเผยผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผผู้บรินมีการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีทักษะของการเป็นผู้นำตามความรู้ความสามารถ และความเหมาะสมกับงาน จนทำให้โรงเรียนเกิดการแข่งขันและสามารถผลิตงานใหม(7) ผู้บริหารเรียนรู้จักการบำรุงขวัญและกำลังใจในโรงเรียนเพื่อใหารปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。
求助全文
约1分钟内获得全文 求助全文
来源期刊
自引率
0.00%
发文量
0
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
确定
请完成安全验证×
copy
已复制链接
快去分享给好友吧!
我知道了
右上角分享
点击右上角分享
0
联系我们:info@booksci.cn Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。 Copyright © 2023 布克学术 All rights reserved.
京ICP备2023020795号-1
ghs 京公网安备 11010802042870号
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:604180095
Book学术官方微信