การศึกษาความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ

ทักษิณา ชัยชนะ, จุฑาภรณ์ มาสันเทียะ, ดารุณี ทิพยกุลไพโรจน์
{"title":"การศึกษาความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ","authors":"ทักษิณา ชัยชนะ, จุฑาภรณ์ มาสันเทียะ, ดารุณี ทิพยกุลไพโรจน์","doi":"10.60027/iarj.2024.276464","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ทักษะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสาร เนื่องจากเป็นทักษะเบื้องต้นที่ใช้ในการสื่อสารและการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องการพูดนี้เป็นที่ยอมรับกันว่ามีผลต่อการแสดงออกต่อการพูดของผู้เรียน ความรู้สึกวิตกกังวลความประหม่าเป็นเรื่องที่พบเห็นโดยปกติในการเรียนภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ สำนักงานเขตดินแดง สังกัดกรุงเทพมหานคร และ (2) เปรียบเทียบ ความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ สำนักงาน เขตดินแดง สังกัดกรุงเทพมหานคร ระหว่างนักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติและแผนการเรียน แบบภาษาอังกฤษ\nระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2566 จำนวน 186 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบสอบถาม ความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ แบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่, ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าสถิติทดสอบทีสำหรับเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มที่เป็นอิสระจากกัน\nผลการวิจัย:  (1) นักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติ มีความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับรุนแรง (2) นักเรียนที่เรียนแผนการเรียนแบบภาษาอังกฤษมีความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับต่ำมาก (3) ความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลายโรงเรียนวิชูทิศ ระหว่างนักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติและแผนการเรียนแบบภาษาอังกฤษโดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  \nสรุปผล: เมื่อพูดภาษาอังกฤษ นักเรียนที่ปฏิบัติตามแผนการเรียนตามปกติจะมีระดับความวิตกกังวลสูงกว่านักเรียนที่ปฏิบัติตามแผนการเรียนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ แสดงให้เห็นว่าการศึกษาภาษาเฉพาะทางมีประสิทธิภาพในการลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาษาของนักเรียนโรงเรียนวิชุทิศ","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":" 9","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-06-08","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276464","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0

Abstract

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ทักษะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสาร เนื่องจากเป็นทักษะเบื้องต้นที่ใช้ในการสื่อสารและการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องการพูดนี้เป็นที่ยอมรับกันว่ามีผลต่อการแสดงออกต่อการพูดของผู้เรียน ความรู้สึกวิตกกังวลความประหม่าเป็นเรื่องที่พบเห็นโดยปกติในการเรียนภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ สำนักงานเขตดินแดง สังกัดกรุงเทพมหานคร และ (2) เปรียบเทียบ ความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ สำนักงาน เขตดินแดง สังกัดกรุงเทพมหานคร ระหว่างนักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติและแผนการเรียน แบบภาษาอังกฤษ ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2566 จำนวน 186 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบสอบถาม ความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ แบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่, ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าสถิติทดสอบทีสำหรับเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มที่เป็นอิสระจากกัน ผลการวิจัย:  (1) นักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติ มีความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับรุนแรง (2) นักเรียนที่เรียนแผนการเรียนแบบภาษาอังกฤษมีความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับต่ำมาก (3) ความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลายโรงเรียนวิชูทิศ ระหว่างนักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติและแผนการเรียนแบบภาษาอังกฤษโดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05   สรุปผล: เมื่อพูดภาษาอังกฤษ นักเรียนที่ปฏิบัติตามแผนการเรียนตามปกติจะมีระดับความวิตกกังวลสูงกว่านักเรียนที่ปฏิบัติตามแผนการเรียนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ แสดงให้เห็นว่าการศึกษาภาษาเฉพาะทางมีประสิทธิภาพในการลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาษาของนักเรียนโรงเรียนวิชุทิศ
การศึกษาความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์:ทักษะารพูดเป็นทักษะที่สำคัญในการสือสารเนือจากเป็นทักษะเบื้องต้นที่ใช้ในการสือสารและการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งมีหายปัจัยที่ส่งผลกระทตบ่อความวิตกังวลในการพูดภษาาอังกฤษซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องการพูดนี้เป็นที่ยอมรับกันว่ามีผลต่อการแสดงออกต่อการพูดของผู้เรียน ความรู้สึกวิตกกังวลความประหม่าเป็นเรื่องที่พบเห็นโดยปกติในการเรียนภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ สำนักงานเขตดินแดง สังกัดกรุงเทพมหานคร และ (2) เปรียบเทียบความวิตกังวลในากรพูดภาษาอังกฤษาอขงันากเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวิชูทิศ สำนักงนา เขตดินแดงสังกัดกรุงเทพมหานคร ระหว่างนักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติและแผนการเรียน แบบภาษาอังกฤษระเบียบวิธีการวิจัย:กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนช้ันประถมศึกษาอตนปลาย ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2566 จำนวน 186 คน โดยใช้ากรสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เรอือที่ใช้ในารวจิยครั้งนีคือ แบบสอบถาม ความวิตกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ แบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมลูโยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่、ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าสถิติทดสอบทีสำหรับเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่ตมัวอย่าง 2 กลุ่มที่เป็นอิสระจากันผลการวิจัย: (1) นักเรียนที่เรียนในแผนการเรียนแบบปกติ มีความวิตกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ มีคะแนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับรุนแรง (2)นักเรียนที่เรียนแผการเรียนแบบภาษาอังกฤษมีความวิตกังวลในการพูดภาษาอังกฤษ มีคะแนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับต่ำมาก(3)ความวิตกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของันกเรียนชั้นประถมศึษาตอนปรายนวิชูทิศเด็กเรียนวชูทิศในแผนการเรียนแบปกติแผนการเรียนแบภาษาอังกฤษโดยภาพรวมแติลางกันอยางมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปผล:เมื่อพูดภาษาอังกฤษ นักเรียนที่ปฏิบัติตามแผนการเรียนตามปกตจิะมีระดับความวิตกังวลสูงกว่านักเรียนที่ปฏิบัติตามแผนการเรียนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะแสดงให้ศึษาภาษาเฉพาะทางมีประสิทธิภาพในการลดความวิตกังวลเกี่ยวับภาษาของนักเรียนโทิศ
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。
求助全文
约1分钟内获得全文 求助全文
来源期刊
自引率
0.00%
发文量
0
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
确定
请完成安全验证×
copy
已复制链接
快去分享给好友吧!
我知道了
右上角分享
点击右上角分享
0
联系我们:info@booksci.cn Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。 Copyright © 2023 布克学术 All rights reserved.
京ICP备2023020795号-1
ghs 京公网安备 11010802042870号
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:481959085
Book学术官方微信